Thursday, June 30, 2011

Ryu Gin, Tokyo, No.20 The World's 50 Best Restaurant 2011

      Only one of the World's 50 Best Restaurant 2011 that serves real japanese food, Kaiseki is Ryo Gin.   

    The highlight of dessert, for me, was the "Molecular Gastronomy"-"-196 Degree Celsius Candy Strawberry and +99 Degree Celsius Strawberry Jam".  I am very impressed.
        
      โดยส่วนตัว  ฉันไม่ค่อยชอบอาหารสไตล์ ไคเซกิ เท่าไหร่  อาหารจานเล็ก จานน้อย  เสริฟมาอย่างเหมือนจะไม่มีวันหมด  สวย ตกแต่งอย่างปราณีต  เป็นอาหารประจำฤดูกาลและประจำถิ่น  เพราะฉะนั้น  รับประกันได้เลยว่า สด อร่อย และดีต่อสุขภาพแน่นอน  แต่สำหรับฉัน  รสชาติออกจะอ่อนไปหน่อย  ฉันชอบอาหารประมาณราเมน ซูชิ สุกี้ยากี้ ชาบู หมูทอดทงคัตสึ  ซะมากกว่า 

      แต่เพราะร้านนี้ได้รับรางวัลจากการจัดอันดับร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลก (The World's 50 Best Restaurant 2011)  โดยได้อันดับที่ 20  ฉันเลยต้องขอไปลองสักหน่อย  ร้านนี้ชื่อว่า ริวกิน (Ryo Gin) ค่ะ  แปลว่า มังกรทอง  ร้านตกแต่งสวยงาม  เป็นร้านขนาดเล็กมีโต๊ะประมาณ 10 โต๊ะเห็นจะได้  พนักงานเสริฟได้รับการเทรนเป็นอย่างดี  โดยเฉพาะ ซอมเมอริเยร์ (ผู้ชำนาญการคัดเลือกไวน์)  เค้าจะแนะนำอาหารแต่ละจานว่าเหมาะกับไวน์ หรือสาเกแบบไหน  เพื่อให้การทานอาหารในครั้งนี้ได้อรรถรสยิ่งขึ้น
      การตกแต่งอาหารไม่ทำให้ผิดหวังเลยค่ะ  อาหารสวย  ปราณีตทั้งการตกแต่งและจานที่ใส่อาหารมา  แต่ละใบได้รับการคัดเลือกมาอย่างดี สวยมีเอกลักษณ์ตามสไตล์ไคเซกิ  เน้นถึงความเป็นญี่ปุ่น  เหมือนจะให้ชาวต่างชาติได้เรียนรู้ถึงวัฒนธรรมของเค้า  และให้ได้รับรู้ถึงประสาททั้ง 5  ทั้งรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส  นอกจากนี้ก็มีความแตกต่างจากอาหารไคเซกิที่มักคุ้นโดยทั่ว ๆ ไป  คือวิธีการเสริฟจะค่อนข้างไปทางสากลเหมือนอาหารฝรั่งมากกว่า  รสชาติอาหารถือได้ว่าดีเยี่ยม  และยังเป็นครั้งแรกที่ฉันได้ทาน "โอเด้ง"  เป็นโอเด้งที่หรูมาก  เพราะมีโอเด้งเป๋าฮื้อด้วย  ไฮโซสุด ๆ  ซึ่งปกติ โอเด้ง ถือได้ว่าเป็นอาหารข้างถนน  จะมีตามร้านสะดวกซื้อและรถเข็นทั่วไป  แต่ถือได้ว่าเป็นอาหารที่เป็นญี่ปุ่นแท้ ๆ  และรับรองว่า  ไม่มีชาวญี่ปุ่นคนไหนไม่รู้จักโอเด้ง  

      แต่แค่โอเด้งแล้วจะเรียกเสียงฮือฮาได้นั้นก็คงธรรมดาเกินไป สำหรับการที่ได้ติดหนึ่งในห้าสิบของร้านอาหารระดับโลก  อาหารจานเด็ดที่สุดสำหรับฉันคือ จานหวาน รออีกสักนิดนะคะ...




Hot Egg Custard with "Sanshyo Pepper"
"Broad Bean Puree" and "Fresh Pea"
"Fresh Sea urchin" from Akkodate Hokkaido with "Dry Shrimp Jelly"
"Grilled Eggplant" and "Shirozuiki"

Ichiban Dashi Soup
Asajime "Pike Eel" with "Grilled Eggplant" Broth flavored with "Aoyuzu"

Sashimi Dish 3 small plates
- "Seabream" from Tokushima "Cherry Leaves" Flavor
- Straw Smoked "Bonito"
- "Aoriika Squid"

relaxing break from Kaiseki

RyuGin Oden!


To pursue possibility of the japanese Cuisine....

"Grilled Seapearch" from Choshi
with "Roasted Rice" over the skin and "Bamboo Shoots"


"Kuroge Wagyu Beef Filet" coated in breadcrumbs
with "Premium Poached Egg" and 3 kinds of "Oignons"


"Wild Mountain Vegetables' Simmered Rice"
topped with "Yariika Squid" from Aomori with its Eggs



-196 Degree Celsius Candy Strawberry
and +99 Degree Celsius "Strawberry Jam"

     จานนี้แหล่ะค่ะ  ที่ฉันได้พูดถึงไว้ในตอนต้น  เค้าเสิรฟขนมรูปร่างคล้ายสตอเบอรี่ที่มีอุณหภูมิเย็นจัดถึง -196 องศาเซลเซียส  และให้เราใช้ช้อนกระเทาะให้แตกออก  ข้างในเป็นผงสตอเบอรี่รสชาติหวานนิด ๆ เหมือนทานไอซิ่งที่ไม่หวานจัดและมีกลิ่นหอมของสตอเบอรี่จาง ๆ  จากนั้นเค้าก็จะราดแยมสตอเบอรี่สดที่อุ่น ๆ หรืออาจจะเรียกว่าร้อนก็ได้  เพราะมีอุณหภูมิสูงถึง 99 องศาเซลเซียส  อาหารลักษณะแบบนี้เรียกว่า Molecular Gastronomy เป็นการทำอาหารที่เชฟจะได้โชว์ถึงศักยภาพของตัวเองทั้งทางศิลปะและวิทยาศาสตร์เข้าด้วยกันอย่างลงตัว   อาหารจะมีความแตกต่างไปจากอาหารที่เราเคยได้ทานในร้านอาหารทั่วไป  เป็นวิวัฒนาการทางด้านอาหารที่ได้มีการพัฒนามาโดยตลอด  ถือได้ว่าเป็นการให้ประสบการณ์แปลกใหม่สำหรับนักชิมหน้าใหม่อย่างเราจริง ๆ 



Hot Parfait RyuGin Style
Vol.12 "Daiginjo White Sake"


Mattcha





Wednesday, June 15, 2011

My Best Parfait ever@ Cozy Corner, Ginza Tokyo

       Do you like Parfait?  I think I found the best one in Tokyo, "Cozy Corner".  It is located in the Ginza area.  The Parfait is composed of mixed fresh fruits, nice & soft shortcake, smooth fresh cream and my favorite "Boba Pearls" that they usually put in the Taiwanese Milk Tea.  It was a perfect combination.

  
    ฉันได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม 2011 หลังสึนามิมาไม่นาน  ท่ามกลางเสียงบ่นอย่างเป็นห่วงปนวิพากษ์วิจารณ์จากคนรอบตัวด้วยความกลัวถึงสารกัมมันตภาพรังสีที่รั่วไหลมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น  ทำไงได้ล่ะ  คนข้างตัวฉันไม่มีความกังวลใด ๆ เลย  ทริปนี้ถือได้ว่าเป็นทริปประจำปีของเราเป็นการแวะพักเหนื่อย เติมพลัง ก่อนที่เค้าคนนั้นของฉันจะไปประชุมที่อเมริกาโดยมีฉันติดสอยห้อยตามไปด้วยเหมือนเคย  บอกตามตรงฉันก็มีความกลัวนิด ๆ อยู่เหมือนกัน  แต่จากที่เช็คข่าวดู  ก็น่าจะโอเคอยู่พอประมาณนะ
  
       เราแวะพักโตเกียว  กิน ๆ นอน ๆ เที่ยว ๆ กิจกรรมก็มีแค่นี้  คนในโตเกียวใช้ชีวิตตามปกติแล้ว  ไม่มีปิดไฟเป็นระยะ ๆ อย่างที่เป็นข่าว  ร้านอาหารก็คนแน่นเหมือนเดิม  วันอาทิตย์  กินซ่าก็ยังปิดถนน  มีคนมาเดินเล่น ช้อปปิ้งไม่เปลี่ยนแปลง  แต่สิ่งที่ขาดหายไปคือ นักท่องเที่ยว นั่นเอง  ฉันไม่เจอคนไทยเลย  ต่างชาติก็มีบ้างประปรายแต่ไม่คลาคล่ำนัก  ฉันได้พบร้านเค้ก ร้านใหม่ใกล้โรงแรมที่พักแถวย่านกินซ่า  ชื่อ Cozy Corner  ได้ทานขนม Parfait ที่อร่อยที่สุดในโลก  ผลไม้สด หวานฉ่ำ สดชื่น คลายเหนื่อยได้เป็นปลิดท้ิง  นอกจากผลไม้สดแล้ว  ยังมีเนื้อ shortcake เนียนนุ่ม พร้อมครีมสดหวานเย็น เข้มข้น  รสชาติติดปลายล้ิน  รวมถึง ไข่มุก ของโปรดของฉันด้วย  ซึ่งปกติเราจะพบแต่ในชานมเย็นสูตรไต้หวันที่เห็นขายกันทั่วไป นอกจากรสอร่อยแล้วอย่างที่กล่าวมาแล้ว  ยังมีรสหนึบหนึบอร่อยถูกใจฉันอีกด้วย  ขอสารภาพว่า  ฉันได้ทานหมดจนเกลี้ยงแก้ว  ไม่มีที่ว่างเหลือสำหรับเค้กจานอื่นแล้ว  หวังไว้แต่ว่า  คราวหน้าฉันคงมีโอกาสได้กลับไปอีกครั้ง  และจะเผื่อท้องไว้ลองเค้กอื่น ๆ  แล้วจะมาเล่าให้ฟังแน่นอนค่ะ

    







My Best Parfait ever @^___^@


Thursday, June 2, 2011

Nahm, The Metropolitan Bangkok-Authentic Thai Food by David Thompson

     Have you heard of David Thompson?  He is a famous Australian Chef for the Nahm, Thai restaurant in London.  He loves Thai food and studies all the ingredients of Thai food.  All his creations are quite  interesting.
  
     Nahm in London got a Michelin star and it was the first Thai food restaurant to be awarded a Michelin star.  As a Thai, I was very proud and impressed.
  
       Let's check out his menu:








Starting with Canapes อาหารว่าง

Ma hor (ม้าฮ่อ)
กอแระหอยแมลงภู่
southern grilled mussels
แคปหมูแหนมสด
spicy pork with mint, peanuts and crispy pork skin
on betel leaves
ปลาแห้งแตงโม
smoked ground fish with fresh and fried shallots,
betel leaves and watermelon




ยำ Salad
ยำหอยนางรมกับแหนม
salad of oysters with chiang mai cured pork


In Thailand, We shared our main courses, 
called "Sam rub" (สำรับ).  
At Nahm, they served in Thai style.  All main courses were served with Jasmine rice.




ซุป Soup


ต้มโคล้งปลากรอบใส่กุ้งย่าง
smoked fish and shredded prawn soup
with sour leaves




เครื่องจิ้ม Relish













กะปิคั่ว กุ้งทอด ผักสด
shrimp paste and grilled catfish simmered in coconut cream
with deep-fried soft shell crab and fresh vegetables



แกง Curry

แกงเขียวหวานเนื้อ  Beef green curry












                                                   แกงเหลืองปลากระพงแดง  spicy yellow curry of red snapper


ผัด นึ่ง ย่าง
stir-fried, steamed and grilled















ลูกชิ้นปลากรายผัดใบผักหวาน
stir-fried fish dumplings with pak warn




ขนมไทย Thai Dessert


 ข้าวเหนียวทุเรียนน้ำกะทิ
Durian and white sticky rice


 ข้าวเหนียวดำเปียกลำใยและมะพร้าวอ่อนกับเผือกรังนก
Black sticky rice with longans and young coconut
served with caramelised taro


Thai Petit Fours